การโต้แย้งการเรียกเก็บเงินในบัญชี Shopify Credit ของคุณ
ในฐานะผู้ขายบน Shopify แล้ว คุณควรทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกรรมทางการเงินของคุณ ซึ่งรวมถึงธุรกรรมที่มีในบัญชี Shopify Credit ของคุณ หากคุณพบธุรกรรมที่คุณคิดว่าไม่ถูกต้อง คุณจะมีตัวเลือกในการโต้แย้ง
ในหน้านี้
- ทำความเข้าใจกับข้อแตกต่างระหว่างการโต้แย้งและการคืนเงิน
- สิทธิ์ในการโต้แย้งการเรียกเก็บเงินจากบัญชีของบัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit
- บัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit ที่ถูกโจรกรรม
- การดำเนินการก่อนการโต้แย้ง
- โต้แย้งการเรียกเก็บเงิน
- การยกเลิกข้อโต้แย้ง
- ลำดับเหตุการณ์การระงับข้อโต้แย้งและคำตัดสินที่เป็นที่สิ้นสุด
- ทำความเข้าใจกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับบัตรประเภทต่างๆ
ทำความเข้าใจกับข้อแตกต่างระหว่างการโต้แย้งและการคืนเงิน
ข้อโต้แย้งจะเกิดขึ้นเมื่อคุณระบุข้อผิดพลาดหรือปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินรายการใดรายการหนึ่งในบัญชีของคุณ โดยระบุว่าการเรียกเก็บเงินไม่ถูกต้อง หรือผู้ขายไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้บริการที่ตกลงกันไว้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับกรณีที่มียอดเรียกเก็บเงินไม่ถูกต้อง ความไม่พอใจต่อคุณภาพของสินค้าหรือบริการ หรือไม่ได้รับการจัดส่งสินค้าหรือบริการ ในกระบวนการโต้แย้งนั้น คุณต้องทำการโต้แย้งการเรียกเก็บเงินผ่าน Shopify Credit (ผู้ออกบัตร) ซึ่งจะเป็นฝ่ายตรวจสอบและไกล่เกลี่ยกับผู้ขายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ในทางกลับกัน การคืนเงินเป็นคำขอแบบตรงไปตรงมาซึ่งจะขอกับผู้ขายโดยตรงให้คืนเงินที่ได้ชำระไป ซึ่งตามปกติมักเกิดขึ้นเพราะคุณเปลี่ยนแผน ไม่พอใจกับการซื้อ หรือตัดสินใจคืนสินค้าตามนโยบายการคืนสินค้า การคืนเงินจะแตกต่างกับการโต้แย้งตรงที่การคืนเงินไม่ต้องมีผู้ออกบัตรเข้ามาเกี่ยวข้องในขั้นแรก และเป็นการดำเนินการระหว่างคุณและผู้ขายกันโดยตรง
ความแตกต่างที่สำคัญนั้นอยู่ที่ธรรมชาติของการแก้ปัญหา การโต้แย้งมีความเกี่ยวข้องกับตัวกลาง (ผู้ออกบัตร) และอิงจากการเรียกร้องให้ชดเชยข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินหรือความล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริการ การคืนเงินคือธุรกรรมที่กระทำโดยตรงกับผู้ขายโดยอิงจากความพึงพอใจของลูกค้าหรือนโยบายการคืนสินค้าโดยไม่ต้องพิจารณาถึงความถูกต้องของธุรกรรมเริ่มต้น
สิทธิ์ในการโต้แย้งการเรียกเก็บเงินจากบัญชีของบัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit
ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการโต้แย้ง โปรดทำความเข้าใจกับเกณฑ์กำหนดสิทธิ์ดังต่อไปนี้
- สถานะธุรกรรม: เฉพาะธุรกรรมที่มีการบันทึกข้อมูลไว้เท่านั้นที่โต้แย้งได้
- กรอบเวลา: จะต้องยื่นข้อโต้แย้งภายใน 60 วันนับจากวันที่มีการบันทึกข้อมูลธุรกรรมแล้ว
- หมวดหมู่การโต้แย้ง: การโต้แย้งที่มีสิทธิ์จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่แบบเฉพาะเจาะจง
คุณสามารถโต้แย้งได้เฉพาะการซื้อเท่านั้น ไม่สามารถโต้แย้งการคืนเงินได้
หมวดหมู่การโต้แย้งที่มีสิทธิ์สำหรับธุรกรรมผ่านบัตร Shopify Credit
คุณสามารถโต้แย้งการเรียกเก็บเงินจากบัญชี Shopify Credit ของคุณด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- ยกเลิกแล้ว
- ทำซ้ำ
- การฉ้อโกง
- สินค้าไม่ตรงตามคำอธิบาย
- ไม่ได้รับ
- บริการไม่ตรงตามคำอธิบาย
- เหตุผลอื่นๆ
บัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit ที่ถูกโจรกรรม
หากคุณเชื่อว่าบัตรสำหรับธุรกิจ Shopify Credit ของคุณถูกละเมิดข้อมูล สูญหาย ถูกขโมย หรือใช้งานในลักษณะฉ้อฉล คุณควรยกเลิกบัตรและสั่งซื้อบัตรใหม่โดยทันทีที่ทราบ
ดูวิธีเปลี่ยนหรือล็อกบัตรสำหรับธุรกิจของ Shopify Credit
การดำเนินการก่อนการโต้แย้ง
ก่อนโต้แย้งการเรียกเก็บเงิน โปรดพิจารณาติดต่อกับผู้ขายและตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรม ตามรายละเอียดดังนี้
- ติดต่อกับผู้ขาย: ในหลายๆ กรณี การติดต่อกับผู้ขายโดยตรงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีกว่า โปรดลองพยายามแก้ไขปัญหากับผู้ขายก่อนทำการยื่นข้อโต้แย้ง หากคุณต้องการ ID ธุรกรรม โปรดติดต่อฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify
- ตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกรรมมีการบันทึกข้อมูลไว้แล้ว และยืนยันว่าวันที่ทำธุรกรรมอยู่ภายในกรอบเวลาที่ให้สิทธิ์ยื่นข้อโต้แย้งได้ (ผ่านมาแล้วไม่เกิน 60 วัน)
โต้แย้งการเรียกเก็บเงิน
- เข้าถึงบัญชีของคุณ: ในส่วนผู้ดูแล Shopify ของคุณ ให้ไปที่ การเงิน > เครดิต
- ระบุธุรกรรม: ในส่วนธุรกรรม หาธุรกรรมที่คุณต้องการโต้แย้งและคลิกเพื่อดูข้อมูลโดยละเอียด
- ประเมินและรวบรวมเอกสาร: รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยสนับสนุนคำร้องของคุณ ตัวอย่างเช่น ใบเสร็จ การโต้ตอบกับผู้ขาย หลักฐานการคืนสินค้า และข้อตกลงการใช้บริการ
- ติดต่อกับฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify: ติดต่อที่ปรึกษาด้านความช่วยเหลือของ Shopify และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมที่เป็นประเด็น เหตุผลในการโต้แย้ง และหลักฐานเพิ่มเติมใดๆ ที่ฝ่ายช่วยเหลือต้องการ
- ส่งข้อโต้แย้ง: ตรวจสอบยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง และให้ฝ่ายช่วยเหลือของ Shopify ส่งข้อโต้แย้งของคุณ
การยกเลิกข้อโต้แย้ง
หากคุณต้องการยกเลิกข้อโต้แย้ง คุณมีเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมงในการขอยกเลิกข้อโต้แย้งนับจากเวลาที่มีการสร้างข้อโต้แย้งดังกล่าวขึ้น หลักจากที่มีการยกเลิกข้อโต้แย้งแล้ว คุณจะไม่สามารถโต้แย้งธุรกรรมนั้นๆ ได้อีกในภายหลัง
ลำดับเหตุการณ์การระงับข้อโต้แย้งและคำตัดสินที่เป็นที่สิ้นสุด
อาจใช้เวลาในการระงับข้อโต้แย้งสูงสุดถึง 90 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและรายละเอียดที่กำหนดโดยกฎเครือข่าย (เช่น Visa)
หลังจากที่คุณส่งข้อโต้แย้งมาถึงเราแล้ว พาร์ทเนอร์ทางธนาคารของ Shopify Credit จะเป็นฝ่ายตรวจสอบข้อโต้แย้ง คุณจะได้รับอัปเดตทางอีเมลเกี่ยวกับสถานะและผลลัพธ์ของการตรวจสอบการโต้แย้ง หากมีคำตัดสินให้คุณเป็นฝ่ายชนะการโต้แย้ง ระบบจะปรับบัญชีของคุณให้สอดคล้องกับคำตัดสิน
คำตัดสินในการระงับข้อโต้แย้งถือเป็นที่สิ้นสุด
ทำความเข้าใจกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับบัตรประเภทต่างๆ
ตารางต่อไปนี้จำแนกข้อโต้แย้งเกี่ยวกับบัตรออกเป็นประเภทต่างๆ บอกรายละเอียดข้อโต้แย้งแต่ละประเภท ชี้แจงเอกสารสำคัญที่อาจจำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการ และยกตัวอย่างสถานการณ์ที่จัดเป็นข้อโต้แย้งที่ยอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้
ประเภทข้อโต้แย้ง | คำอธิบายประเภทข้อโต้แย้ง | เอกสารที่จำเป็น | ตัวอย่างข้อโต้แย้งที่ยอมรับได้ | ตัวอย่างข้อโต้แย้งที่ยอมรับไม่ได้ |
---|---|---|---|---|
การหลอกลวง | มีการเรียกเก็บเงินโดยปราศจากคำยินยอมจากผู้ถือบัตร |
|
มีธุรกรรมที่ไม่รู้จักปรากฏอยู่ในใบแจ้งยอด | โต้แย้งธุรกรรมที่คุณลืมไปแล้ว |
ไม่ได้รับจัดส่ง | ชำระค่าสินค้าหรือบริการไปแล้วแต่ไม่ได้รับจัดส่งตามที่ตกลงกันไว้ |
|
ชำระค่าสินค้าไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับจัดส่ง | โต้แย้งการจัดส่งล่าช้าแต่มีการจัดส่งแล้ว |
ทำซ้ำ | ถูกเรียกเก็บเงินจากธุรกรรมเดียวกันเกินหนึ่งครั้ง |
|
มีการเรียกเก็บเงินเหมือนกันสองครั้งปรากฏอยู่ในใบแจ้งยอด | มีการเรียกเก็บเงินสำหรับธุรกรรมที่คล้ายกันสองรายการซึ่งทำโดยสมัครใจ |
สินค้าไม่ตรงตามคำอธิบาย | สินค้าที่ได้รับแตกต่างจากคำอธิบาย ณ เวลาที่ทำการซื้อ |
|
สินค้าที่ได้รับมีสี รูปลักษณ์ หรือขนาดแตกต่างไปจากที่สั่งเอาไว้ | โต้แย้งเพราะนึกเสียดายที่ซื้อหรือเกิดเปลี่ยนใจหลังจากที่ได้รับสินค้าที่ตรงตามคำอธิบายแล้ว |
บริการไม่ตรงตามคำอธิบาย | ได้รับบริการแตกต่างไปจากที่ซื้อไว้ |
|
บริการผิดไปจากคุณภาพหรือเนื้อหาที่โฆษณาไว้อย่างมาก | ไม่พอใจการให้บริการโดยประเมินจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งผู้ขายไม่ได้ให้คำมั่นไว้ |
ยกเลิกแล้ว | มีการเรียกเก็บเงินสำหรับบริการหรือสินค้าที่ถูกยกเลิกตามนโยบายของผู้ขาย |
|
ถูกเรียกเก็บเงินหลังจากที่คำสั่งซื้อถูกยกเลิกตามนโยบายการยกเลิก | โต้แย้งหลังจากยกเลิกบริการหรือสินค้าซึ่งอยู่นอกกรอบเวลานโยบายการยกเลิก |
อื่นๆ | ข้อโต้แย้งที่ไม่เป็นไปตามหมวดหมู่มาตรฐาน |
|
การเรียกเก็บเงินที่ไม่คาดคิดโดยไม่มีคำอธิบายหรือหมวดหมู่ที่ชัดเจน | ไม่มีตัวอย่าง เนื่องจากข้อโต้แย้งหมวดหมู่อื่นๆ ครอบคลุมสถานการณ์ได้กว้างมาก จึงต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป |